วันพุธที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร

Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร (7)
Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร
มาทำความเข้าใจกับเรื่องแรกกันก่อนนะครับ คำศัพท์ที่น่าสนใจคำต่อมา คือคำว่า Long (BUY), Short (SELL) จริงๆแล้วผู้เขียนอาจเขียนรวมๆทีเดียวออกมา แต่เดี๋ยวในบรรทัดต่อไปนั้นจะพยายามแยกและแปลออกมาให้นะครับ กับคำศัพท์คำนี้ สำหรับ ความหมายของคำ Long (BUY), Short (SELL) เหล่านี้นั้นจะหมายถึงอะไรกันบ้าง มาเรียนรู้ไปพร้อมกัน

Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร

Long (BUY) คือ การเปิดสัญญาณซื้อ หมายความว่าเมื่อเปิด Long (BUY) เชื่อว่ากราฟในอนาคตจะมีการวิ่งขึ้นนั่นเอง ถ้าคุณเทรด TFEX คุณอาจคุ้นเคยกับคำว่า Long แต่ถ้าเป็นการเทรด forex คำว่า buy น่าจะเป็นคำที่มีความคุ้นเคยมากกว่ามากกว่า ดังนั้น คุณสามารถใช้คำเหล่านี้เมื่อทำการเทรดได้
Short (SELL) คือ การเปิดสัญญาณขาย หรือหมายความว่าเมื่อเปิด Short (SELL) เชื่อว่ากราฟในอนาคตนั้นจะมีการวิ่งลงนั่นเอง โดยใน TFEX มันเรียกว่า short หรือ ช้อต แต่ถ้าเป็นในส่วนของ forex เราจะเรียกสัญญาตัวนี้ว่า sell ซึ่งมักเป็นลูกศรสีแดงนั่นเอง เรียกว่าดูกันง่ายๆเลย
Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร (3)

จุดเด่นของตลาด Forex

ในการทำกำไร ในตลาด Forex นั้น เราจะดูกันเป็น “คู่ค่าเงิน” ตัวอย่างเช่น EUR/USD คือการเปรียบเทียบระหว่างเงินยูโร กับเงิน ดอลล่าห์ โดยตลาด Forex จะต่างจากตลาดหุ้น คือสามารถเทรดได้ทั้งสองทาง ทั้งซื้อและขาย เล่นได้ทั้ง ขาขึ้น และขาลง ตลาดหุ้นซื้อได้อย่างเดียว เล่นได้แต่ขาขึ้น ถ้าเป็นขาลงต้องนอนรออย่างเดียวครับ รูปแบบการเปิดออเดอร์ของตลาด Forex นั้น มี 2 รูป แบบหลัก คือ Long (Buy) และ Short (Sell)
          Long (Buy) เป็นการซื้อที่ราคาถูกแล้วขายราคาแพง เราจะทำการเปิดออเดอร์ Long (Buy) ตอนที่ราคากราฟวิ่งลงต่ำ แล้วทำการปิดออเดอร์(Closed) ตอนที่กร๊าฟวิ่งขึ้นสูงเพื่อทำกำไร เรียกว่าเป็นการ “เทรดขาขึ้น” ครับ ตอนเราเปิด Long ก็คือ ส่งคำสั่งซื้อ หรือ Send Buy Order ไปที่ MT4 จะ ทำให้เกิด Long Position ขึ้น
        Short (Sell) เป็นการขายราคาแพงแล้วซื้อกลับตอนราคาถูก  คือเปิดออเดอร์ Short (Sell) ตอนที่กราฟวิ่งขึ้นสูง แล้วทำการปิดออเดอร์(Closed) ตอนที่กร๊าฟวิ่งลงต่ำเพื่อทำกำไร อย่างนี้เรียกว่าเป็นการ “เทรดขาลง” ครับ ตอนเราเปิด Short ก็คือ ส่งคำสั่งขาย หรือ Send Sell Order ไปที่ MT4 จะเกิด Short Position ขึ้น
Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร (9)

ตัวอย่าง การเปิดออเดอร์ Long (Buy) “เทรดขาขึ้น”

  1. คุณเปิดออเดอร์ Buy (Long) ที่ราคา 1.33589
  2. ปิดออเดอร์ (Closed) Buy (Long) ที่ราคา 1.35396
เท่ากับว่าคุณทำกำไร ไปได้ 1.35396 – 1.33589 = 0.01807 หรือ 1807 point
Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร (5)

ตัวอย่างการเปิดออเดอร์ Short (Sell) “เทรดขาลง”

  1. คุณเปิดออเดอร์ Sell (Short) ที่ราคา 1.37475
  2. ปิดออเดอร์ (Closed) Sell (Short) ที่ราคา 1.33589
เท่ากับว่าคุณทำกำไร  1.37475 – 1.33589 = 0.03886 หรือ 3886 point
ในการซื้อ-ขายในตลาด Forex ก่อนอื่นคุณต้องรู้ว่า คุณต้องการซื้อ (Buy) หรือ ว่าขาย (Sell)
  • ถ้าคุณต้องการที่จะซื้อ คุณต้องการให้ Base Currency มีค่ามากขึ้นแล้วคุณจะขายมันที่ราคาสูงกว่า แบบนี้เรียกว่า “going long “ หรือเรียกว่า Long position และที่สำคัญให้จำไว้ว่า Long =Buy
  • ถ้าคุณต้องการที่จะ Sell คุณต้องการให้ราคา Base Currency ลดลง แล้วคุณจะBuy มันกลับที่ราคาต่ำกว่าเดิม แบบนี้เรียกว่า Going Short หรือ เรียกว่า Short position ควรจำไว้ว่า Short=Sell
ในการเทรด Forex สามารถเทรดได้ทั้งขาขึ้นและขาลง พร้อมกันได้ ในสกุลเงินเดียวกัน เช่น EUR/USD ซื้อ ที่ 90 ขาย ที่ 90 คือ sell และ buy พร้อมกัน ทั้งนี้ถ้าเกิดมันขึ้นไปที่ 100 คุณก็จะได้ฝั่ง Buy ที่ +10 จุด เสียฝั่ง sell ที่ -10 จุด แต่หากฝั่ง sell คุณอาจจะยอมตัดขาดทุนแค่ 5 จุด คือเมื่อกราฟขึ้นมาที่ 95 จุด คุณก็ปิด ออเดอร์ ฝั่ง sell ซึ่งและเมื่อกราฟขึ้นต่อไปที่ 100 เท่ากับว่าคุณก็จะได้กำไร 5 จุด(ฝั่ง Buy ได้ 10 ฝั่ง Sell เสีย 5)
Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร (4)

ประโยชน์ของ Long (BUY), Short (SELL)

1.ช่วยให้คุณสามารถทำกำไรได้
คุณจะไม่สามารถทำกำไรได้จนกว่าคุณจะทำการเปิดสัญญา Long (BUY), Short (SELL) ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่คุณทำการเปิดสัญญา Long (BUY), Short (SELL) เมื่อนั้นหมายความว่าคุณเริ่มต้นแล้วสำหรับการทำกำไรครับ
2.ช่วยให้คุณดูโปรมากขึ้น
เมื่อคุณเริ่มต้นใช้คำศัพท์ในวงการเทรด forex สิ่งที่ตามมาคือ คุณก็จะดูเทพมากขึ้น และทำให้ดูเป็นโปรในการเทรด forex มากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นอยากดูเทพอยากดูโปร ต้องอ่านค่า Long (BUY), Short (SELL) ให้ได้และให้ถูกต้องนะครับ รับรองเลยว่า ใครๆก็อยากจะมาปรึกษาคุณอย่างแน่นอน
Long (BUY), Short (SELL) คืออะไร (8)

การทำความเข้าใจคำว่า Long (BUY), Short (SELL) กับ forex

สำหรับใน forex คำสำคัญที่มีการใช้มากที่สุดในส่วนของ Long (BUY), Short (SELL) คงเหลือแต่คำว่า Buy หรือ Sell คุณไม่จำเป็นต้องไปบอกกล่าวถึงคำว่า Short หรือคำว่า Long ก็ได้ ขอแค่เน้นแต่เฉพาะคำที่กล่าวไว้เท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ

อย่าสับสนกับในส่วนของตลาด Binary Option

สำหรับในตลาดการเทรด Binary Option ก็มีการใช้คำเหล่านี้ด้วยเช่นเดียวกัน แต่ผมขอให้คุณนั้นอย่าไปสับสนกับคำเหล่านี้อย่างเด็ดขาด เพราะว่า ต่างก็ใช้คำว่า Long (BUY), Short (SELL) เช่นเดียวกัน หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็นคำแบบเดียวกันด้วยนั่นเอง
เอาเป็นว่าคุณน่าจะพอเข้าใจความหมายของคำว่า Long (BUY), Short (SELL) ได้มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมแล้วนะครับ รับรองว่าต่อจากนี้ไปคุณจะดูโปรขึ้นด้วยการใช้คำศัพท์ที่ถูกต้องขึ้นอย่างแน่นอน
=========================================

Lot คืออะไร

Lot คืออะไร (3)
Lot คืออะไร
Lots หมายถึง ปริมาณหรือขนาดของการซื้อขายในตลาด Forex โดยมีอยู่สองลักษณะคือ Mini Lot size และ Standard Lot Size โดย
  • Mini Lot size มีค่าเท่ากับการเทรด 10,000 units
  • Standard Lot Size มีค่าเท่ากับการเทรด 100,000 units
Mini Lot จะเหมือนกับ Standard Lot แต่แตกต่างกันนิดหน่อยคือ มี 0.01 เพิ่มขึ้น
  • 0.01 Lot คือ กำไร-ขาดทุน จุดละ 0.1 $ หรือ 10 Cent
  • 0.1 Lot คือ กำไร-ขาดทุน จุดละ   1 $
  • 1.0 Lot คือ กำไร-ขาดทุน จุดละ 10 $
ยกตัวอย่าง คุณ เปิดออเดอร์ Buy(Long) EURUSD ที่ 1.4000 และปิดออเดอร์เพื่อขายทำกำไรที่ 1.4010 คุณทำกำไร 10 Pips  ถ้าคุณลงทุน 1 Lot คุณจะได้กำไร 10$ x 10pips = +100$  แต่หากกราฟลงมาที่ 1.3990 แล้วคุณปิดออเดอร์เพื่อตัดขาดทุน คุณก็จะขาดทุน 10$ x (-10pips) = -100$ เช่นกัน
Lots เป็นระบบที่ใช้ในการคำนวณยอดเทรดว่าเราต้องการเทรดที่เท่าไหร่ ยิ่งถ้าเราใช้ Lot เยอะๆ  ผลที่ตามมาคือ ราคาที่เราได้รับนั้นก็จะสูงขึ้นไปเรื่อยๆด้วย ปกติแล้วทุกๆโบรกเกอร์จะมีการใช้ Lot ที่เป็นแบบ Standard คือเป็นแบบมาตรฐาน ประกอบไปด้วยตัวเลขดังต่อไปนี้คือ 0.01, 0.1, 1.0 ,10.0 ตัวเลขตรงนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณนั้นจะเลือกตัวเลขไหนและอย่างไร
Lot คืออะไร (2)

การประยุกต์ใช้ความรู้เรื่อง Lot

เราใช้หลักการเรื่อง Lot มาใช้ในการคำนวณ หามูลค่าของการเคลื่อนที่ไป 1 pips ครับ โดย
มูลค่า 1 pip = (จำนวนจุดทศนิยมของคู่สกุลเงิน / ราคาอัตราแลกเปลี่ยน ณ ปัจจุบัน) x ขนาดของ Lots
ตัวอย่างเช่น
  • คุณเทรด EUR/USD กับ Forex โบรกเกอร์ที่ใช้ทศนิยม 4 ตำแหน่ง หรือ 4 จุด
  • ราคาอัตราแลกเปลี่ยนของ EUR/USD ณ ปัจจุบัน คือ 2385
  • คุณเทรดโดยมีขนาดเท่ากับ Mini Lot size = 10,000 หน่วย
ดังนั้น มูลค่า 1 pip ของ EUR/USD = ((0.0001)/ 1.2385) x 10,000 = 0.0000807 x 10,000 = 0.807
โดยหากบัญชีเทรดที่คุณเปิดอยู่กับ Forex Broker เป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐอเมริกา เราจะสามารถพูดได้ว่า ทุกๆครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงราคาอัตราแลกเปลี่ยนไป 1 pip จะมีค่าเท่ากับการเปลี่ยนแปลงไป $0.807 ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา
 Lot คืออะไร (1)

การคำนวณหา กำไร/ขาดทุน จากการเทรด

สมมุติว่า คุณเทรดคู่เงิน EUR/USD โดยทำการเปิด Buy 1 ออเดอร์ และใช้ขนาด Lot Size เท่ากับ $10,000
เมื่อราคา ณ ปัจจุบันของ EUR/USD อยู่ที่ 1.5650 และในเวลาต่อมา คุณตัดสินใจปิดออเดอร์ที่ราคา 1.5700 เราจะสามารถคำนวณหากำไร/ขาดทุนได้ดังนี้
กำไรหรือขาดทุน = มูลค่า 1 pip x จำนวน pips ที่เคลื่อนที่
* ราคาเปลี่ยนจาก 1.5650 มาเป็น 1.5700 แสดงว่าอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนที่ไป +50 pips
กำไรหรือขาดทุน = $0.807 x 50 = $40.35
จากตัวอย่างนี้ เราจะเห็นได้ว่าเราได้กำไรจากการเทรด EUR/USD ครั้งนี้เท่ากับ $40.35
อย่างไรก็ตาม การแสดงการคำนวณทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้ มีจุดประสงค์เพียงเพื่อทำให้เกิดความเข้าใจในภาพรวมเกี่ยวกับเรื่องของ Pip Value และ Lots เท่านั้น เพราะในชีวิตของการเป็นนักเทรด Forex จริงๆ ทางโบรกเกอร์แต่ละเจ้าจะมีการคำนวณมาให้เราหมดแล้วครับ

Lot คืออะไร (4)

สิ่งที่น่ารู้เกี่ยวกับ Lot

เมื่อเราทำการเปิด Lot มากขึ้น ผลที่ตามมาคือ จำนวนของราคาที่เพิ่มขึ้นไปด้วยทั้งในส่วนของกำไรและส่วนของการขาดทุน ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องของจิตวิทยาการลงทุนเลยนะครับ เพราะว่ายิ่งถ้าเราโลภ หรือว่าปล่อยให้ความโกรธนั้นเขาครอบงำแล้ว ผลที่ตามมาคือ มันจะทำให้เรานั้น อาจทำให้เราขาดทุนแบบบักโกรก หรือผมมักเรียกการขาดทุนแบบนี้ว่า ล้างพอร์ตนั้นเอง

Lot คืออะไร (5)

Lot size และเทคนิคการเปิด Lot

Lot size หรือขนาดล็อต คือปริมาณหรือขนาด โดยจะเป็นไปตามจำนวน Lot  (Volume) อย่างเช่น บัญชี Mini Lot Size = 0.01-8 (Volume)
เพื่อให้คุณสามารถใช้ Lot ให้เกิดประโยชน์ต่อการเทรด forex ได้ดีที่สุด ผมขอแนะนำ หลักการในการเปิด Lot แบบง่ายๆดังต่อไปนี้ที่คุณนั้นสามารถทำได้ครับ มาดูว่ามีหลักการอย่างไรบ้าง
1.เปิด 0.01-0.05
ตัวเลข lot นี้เหมาะสมอย่างยิ่งหากคุณมีทุนไม่เกิน 5,000 บาท เพราะเป็นตัวเลขการเทรด ที่มีความปลอดภัยมากที่สุด โดยสามารถใช้กับ TF  ได้หลากหลายแบบ แต่ควรเน้นไปที่ระยะเวลาที่นานที่สุดเป็นสำคัญก่อน การทำกำไรอาจใช้เวลาประมาณ 2-3 วัน เพราะว่า เนื่องจากตัว lot ที่มีค่าน้อยทำให้ผลกำไรอาจจะยังไม่มากนักนั่นเอง
2.เปิด 0.05-0.30
หากคุณเริ่มทำกำไรและมีทุนประมาณ 10,000-20,000 บาท การเปิด Lot ที่เท่านี้ คือสิ่งที่ช่วยให้คุณทำกำไรได้มากขึ้น ในขณะที่คุณนั้นปลอดภัยมากขึ้นด้วย ถ้าคุณเปิด Lot มากกว่านี้ ก็จะเข้าสู่ความเสี่ยงของการล้างพอร์ต หรืออาจหมายถึง คุณยังบริหารจัดการพอร์ตของตนเองได้ไม่ดีเท่าที่ควรเท่าไหร่
Lot คืออะไร (6)
3.เปิดมากกว่า 0.30
การเปิด Lot มากกว่านี้คุณควรมีเงินทุนอยู่อย่างน้อย 100,000 บาท ผมเน้นนะครับว่าหนึ่งแสน ไม่ใช่ว่ามีแค่หมื่นสองหมื่นแล้วจะเปิดมากกว่านี้ คุณไม่ควรสนใจว่าคุณจะสามารถหาเงินได้จาก forex ต่อครั้งได้เท่าไหร่ แต่คุณควรสนใจว่าเงินทุนของคุณนั้นสุดท้ายแล้วเหลือที่เท่าไหร่ต่างหากล่ะครับ ดังนั้นนักเทรด foex มืออาชีพ ต้องมีจำนวนเงินที่มีมากและลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุดครับ
สรุปแล้วเมื่อคุณเริ่มต้นในการเทรด forex ส่วนสำคัญที่สุดที่ถือว่าทำให้คุณสามารถทำกำไรได้อย่างรวดเร็ว หรือว่าช้านั้น คือค่า lot ที่คุณเปิดนั่นเอง ดังนั้นจงบริหารการเปิดค่า lot ให้ดี เพื่อที่ว่าคุณนั้นจะได้สามารถเทรด forex และทำกำไรได้อย่างยั่งยืนนั่นเองครับ
==========================================

วันอังคารที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2558

Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร

Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร (2)
Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร
คำศัพท์ที่น่าสนใจในวงการเทรด forex อีกคำหนึ่งที่ผู้เขียนต้องการนำมาให้ศึกษานั้นจะเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เป็นคู่เงินที่เราเห็น เช่น EUR/USD 1.23453 เป็นต้น โดยจะมีคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรงจำนวน 3 คำศัพท์ มีคำว่าอะไรบ้างนั้น เรามาศึกษากันไปพร้อมๆกันในเวลานี้เลยนะครับ สำหรับคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ประกอบไปด้วย

Base currency คืออะไร

อันดับแรกมาดูความหมายของคำว่า Base currency เสียก่อนคำว่า Base currency มีความหมายว่า ค่าเงินพื้นฐาน ซึ่งค่าเงินตัวแรกของแต่ละคู่ เช่น EUR/USD = 1.8324 ซึ่งหากแปลความหมายแล้วจะมีความหมายว่า เงิน 1 ยูโร มีค่าเท่ากับ 1.8324 ดอลล่าร์นั่นเอง
ดอลล่าร์ส่วนใหญ่จะถูกใช้เป็นค่าเงินพื้นฐาน (base currency) ในการคำนวณ คือเราใช้เงิน 1 USD เทียบกับค่าเงินอื่นในคู่อื่นๆนั้น แต่ยกเว้นค่าเงินเหล่านี้ เงินปอนด์ เงินยูโร เงินดอลล่าร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์จะใช้ค่าเงินตัวเองเป็นค่าเงินพื้นฐานในการคำนวณ
เป็นอย่างไรครับ แค่คำศัพท์คำแรกก็ทำให้คุณเข้าใจความหมายได้เพิ่มขึ้นมากเลยใช่ไหมครับ
Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร (1)

Quote currency คืออะไร

คำศัพท์คำที่สองที่คุณจะเจอคือคำว่า Quote currency หรือค่าเงินอ้างอิง เป็นค่าเงินตัวที่สองของคู่เงินที่มีในตลาด Forex ซึ่งบางครั้งอาจจะเรียกว่า pip currency และกำไรที่เรายังไม่รับรู้ (คือยังไม่ได้ปิด position) เช่น EUR/USD ตัวนี้จึงหมายถึงค่าเงินตัวที่สองคือ USD ซึ่งมันคือราคาเท่าใดเรายังไม่ทราบ แต่วิธีการเช็คคือมันจะมีราคาเท่ากับราคา pip นั่นเอง โดยเมื่อคุณเปิดสัญญาก็จะเห็นค่าของ Quote currency ทันที

Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร (3)

Cross Currency คืออะไร

สำหรับคำศัพท์ตัวที่สามนี้คือ Cross Currency คือ คู่เงินที่ไม่มีคู่เงินหลักอย่าง USD อยู่ภายในคู่เงินนั้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นคู่เงินที่ค่อนข้างอันตรายในการเทรดนะครับ เพราะจากประสบการณ์ส่วนตัวแล้ว มันมักจะมีค่าสเปรดที่สูงมากๆ จนทำให้คุณนั้นแค่เปิดสัญญาก็ขาดทุน และอาจถึงขั้นล้างพอร์ตเลยก็มีนะครับ ดังนั้นคิดให้ดีทุกครั้งหากคุณต้องการจะเล่น Cross Currency ครับ
cross currency จะเอาแน่เอานอนไม่ได้(ผันผวน) เพราะต้องใช้คู่เงินที่มีดอลล่าร์สองคู่มาเทียบข้ามคู่กัน ตัวอย่างเช่น ในการ buy EUR/GBP หมายความว่าเรากำลัง buy คู่ EUR/USD และกำลัง sell คู่ GBP/USD อยู่ การเล่นคู่ที่เป็น Cross currency จะทำให้มีค่า transaction cost สูงขึ้นด้วย
Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร (4)

Exotic Currency คืออะไร

หมายถึงคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินเกิดใหม่(สกุลเงินแปลกใหม่) ซึ่งไม่ได้มีสภาพคล่องสูงมากนัก (มีแนวโน้มที่สเปรดของ Bid/Offer มีความกว้างและมักจะมีขนาดเล็กกว่า
สกุลเงินที่แปลกใหม่นี้เป็นหนึ่งสกุลเงินที่มีการซื้อขายที่บางเบา มีสภาพคล่องน้อยและ spreads กว้างมาก ตัวอย่างเช่น Swedish Krona (SEK), Norwegian Krone (NOK) Turkish Lira. เป็นต้น บนแพลตฟอร์ม forex การจับคู่ของสกุลเงินเหล่านี้มักจะมี spreads ที่กว้างมาก เช่นที่ EURSEK มีส่วนต่างถึง 50 จุดบนบางแพลตฟอร์ม

Base currency ,Quote currency ,Cross Currency และ Exotic Currency คืออะไร (5)

ประโยชน์ของการเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้

ประโยชน์ของการเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้มีดังต่อไปนี้คือ
1.ช่วยให้เราสามารถเข้าใจความหมายของค่าเงิน และคู่เงินต่างๆ เวลาเราเข้าไปอ่านข้อมูลตามบอร์ดของต่างประเทศ ซึ่งถือว่าง่ายมากๆ และคุณสามารถทำได้ทันที
2.คุณอาจได้สูตร หรือได้รู้ราคาที่อาจจะเกิดขึ้นล่วงหน้า จากการประกาศแจ้งข่าวของคนวงในในต่างประเทศ ทำให้คุณสามารถทำเงินและทำกำไรได้เร็วกว่าอย่างมาก
3.ช่วยให้คุณระวังว่าค่าเงินคู่ไหนที่คุณไม่ควรเล่น เช่น คู่เงินที่ไม่มีเงิน USD อยู่อาจเป็นคู่เงินที่อันตรายและคุณอาจได้รับความเสียหายถ้าเทรดไปเป็นต้น
ตอนนี้เราก็มีความรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับคำศัพท์ทั้งสามคำเรียบร้อยแล้วนะครับ โดยการเรียกชื่อคำศัพท์เหล่านี้ถูกก็จะมีประโยชน์ในการเข้าไปอ่านค่าต่างๆแล้ว มีความเข้าใจมากขึ้น และถูกต้องมากขึ้นนั่นเอง ดังนั้นถือว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆของคุณในการเทรดครับ
=========================================

Bid Price, Ask Price, bid/ask spread คืออะไร

Bid Price, Ask Price, bid ต่อ ask spread คืออะไร (2) Bid Price คืออะไร

 คำที่สองที่มีความหมายที่น่าสนใจมากๆ คือคำว่า Bid price โดยคำนี้นั้นหมายความว่า เป็นราคาตลาด หรือราคาที่เราใช้ในการซื้อกันในตลาด forex ที่เป็นราคาปัจจุบัน โดยราคานี้จะอยู่ทางด้านซ้ายมือของราคาที่มีการโชว์ให้เราเห็น เช่น ถ้าเป็น EUR/USD เป็น 1.31176/1.31233 ราคา Bid price คือตัวเลข 1.31176 นั่นก็คือ ราคาที่คุณจะขาย(sell) ที่โบรกเกอร์เสนอให้เรา Bid ใช้กับการเปิดการซื้อ-ขายแบบ short หรือ sell ความหมายของตัวอย่างนี้คือ เรา sell 1 ยูโรแล้วเราจะได้เงิน 1.31176 ดอลล่าร์

Ask Price คืออะไร

คำศัพท์คำแรกที่เราจะต้องศึกษาความหมายกันก่อนคือคำว่า Ask price ก็คือ ราคาที่คุณจะซื้อ(buy) ที่โบรกเกอร์เสนอให้เรา ask ใช้กับการเปิดการซื้อ-ขายแบบ long หรือ buy  ราคานี้จะมีค่าอยู่ในช่องทางขวามือของราคา เช่น EUR/USD เป็น 1.31176/1.31233 Ask Price คือ ราคา 1.31233  นั่นเอง ความหมายของตัวอย่างนี้คือ เราสามารถ buy 1 ยูโรโดยใช้เงิน 1.31233 ดอลล่าร์ บางทีเราก็เรียกราคาตรงนี้ว่า offer price ขึ้นอยู่กับว่าเรานั้นถนัดในการเรียกราคาแบบไหน

bid/ask spread คืออะไร

Bid Price, Ask Price, bid ต่อ ask spread คืออะไร (1)
คำศัพท์คำที่สามนี้คือคำว่า bid/ask spread คือส่วนต่างระหว่างราคา bid และราคา ask โดยปกติแล้วเราจะเอาตัวที่อยู่หลังทศนิยมมาใช้ในการพูด เพราะว่ามันง่ายต่อการที่เราจะพูดและเขียนเพื่อใช้เป็นราคาอ้างอิง ยกตัวอย่างเช่น USD/JPY 123.2323/123.4345 ก็จะนำมาเขียนให้อยู่ในรูปแบบนี้คือ 2323/4345 เป็นต้น

การนับ Spread จะนับค่าเป็น pip สเปรดเปรียบเหมือนค่าธรรมเนียมในการซื้อขายค่าอัตราแลกเปลี่ยนแต่ละครั้ง โบรกเกอร์จะได้เงินจากส่วนต่างระหว่าง bid และ ask เพราะเราต้องเปิดการซื้อ(แบบ long)ที่ ask แต่เมื่อจะขายปิดการซื้อจะต้องขายที่ bid ครับ ส่วนการซื้อ-ขายแบบ short ก็ตรงข้ามกัน เช่น GBP/USD เป็น1.7445/1.7448  ราคา bid ของ GBP/USD คือ 1.7445 และ ราคา ask คือ 1.7448 ถ้าเราจะซื้อต้องซื้อที่ 1.7448 และถ้าจะขายปิดออเดอร์ต้องขายที่ 1.7445 แปลว่าเราต้องจ่ายค่าธรรมเนียม 3 pips และต้องจ่ายทุกๆครั้งในการเปิดออเดอร์ครับ นี่คือสิ่งที่ทำให้โบรกเกอร์รวย ดังนั้น การเปิดการซื้อขายแต่ละครั้งต้องคิดเผื่อการจ่ายค่า สเปรด ด้วยยิ่งสเปรดต่ำจะยิ่งดีBid Price, Ask Price, bid ต่อ ask spread คืออะไร (5)ประโยชน์ของการอ่านค่าเหล่านี้เป็น

เมื่อคุณสามารถอ่านค่าและเรียกความหมายของคำข้างต้นนี้ได้ถูกต้อง ก็จะช่วยให้คุณนั้นสามารถอ่านค่าที่มีการทำนายต่างๆในอินเทอร์เน็ตของคู่เงินตามเว็บไซต์ดังๆอาทิเช่น เว็บไซต์ forexfactory.com เป็นต้น ซึ่งถ้าเรานั้นไม่เข้าใจความหมายเลยก็จะส่งผลให้เมื่อเรานั้นเจอคำเหล่านี้เราก็จะไม่เข้าใจความหมายที่แท้จริง อาจทำให้เราพลาดโอกาสในการทำเงินได้อย่างเหลือเชื่อเลยก็ได้นะครับ
Bid Price, Ask Price, bid ต่อ ask spread คืออะไร (4)

ข้อควรระวัง

1.อย่าจำตำแหน่งของการใช้คำสับสน ผมยอมรับว่าคำว่า bid และ ask นั้นอาจทำให้คุณมีความสับสนขึ้นมาได้ว่ามันคืออะไร หรือว่ามันจะต้องดูจากทางช่องทางซ้ายหรือช่องทางขวาอย่างนี้เป็นต้น ให้จำว่า “ bid/ask ” และ “ sell/buy ”
2.จงเรียนรู้ความหมายจากประสบการณ์จริง เพื่อให้คุณสามารถเทรดและเข้าใจความหมายได้ดีขึ้น ผมแนะนำให้คุณนั้นทำการทดลองเทรดจริงและเรียนรู้จากประสบการณ์ของจริงเลยน่าจะดีที่สุด ไม่นานประเดี๋ยวก็ชำนาญเองครับ
พอทำความเข้าใจเกี่ยวกับคำศัพท์เหล่านี้ได้เพิ่มขึ้นมากขึ้นแล้วใช่ไหมครับ ผู้เขียนเชื่อว่าถ้าคุณสามารถแปลความหมายของคำเหล่านี้ได้อย่างถูกต้องมันก็จะสามารถช่วยให้คุณนั้นทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ และแนวทางในการเทรด forex ได้เพิ่มขึ้นอย่างมากครับ เป็นการเพิ่มโอกาสในการทำเงินของคุณอย่างง่ายๆเลยครับ
=========================================